วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

กาแลคซี S5 (Galaxy S5) มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวแล้ว รองรับการสแกนลายนิ้วมือ


หลังจากรอคอยอยู่นาน สาวกสมาร์ทโฟนของซัมซุง ก็ได้เฮ!!! เมื่อได้มีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุด กาแลคซี S5 (Galaxy S5) อย่างเป็นทางการ ซึ่งซัมซุงกาแลคซี S5 (Galaxy S5) จัดมาพร้อมการปรับปรุงสเปค รวมทั้งการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดททั้งในเรื่องของสเปค และฟีเจอร์ใหม่ๆ ของสุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดกัน

สุดยอดสมาร์ทโฟน กาแลคซี S5 (Galaxy S5) จะมีคุณสมบัติใหม่ที่ถือว่าค่อนข้างดีและล้ำสุดๆ
จะช่วยให้หมดกังวลปัญหามือถือเปียกน้ำหรือฝุ่นเข้า ตามมาตรฐาน IP67

ในส่วนของหน้าจอมือถือรุ่นใหม่ล่าสุด กาแลคซี S5 (Galaxy S5) จะมีความกว้างถึง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED display นอกจากนี้ ยังมีโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Ultra Power Saving Mode ทำให้สามารถใช้งานได้ต่ออีก 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรีจะเหลือน้อยนิดก็ตาม

ในส่วนของการเข้าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท กาแลคซี S5 (Galaxy S5) ก็ยังมี Download booster เพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดด้วยการใช้ Wi-Fi และ LTE ร่วมกันได้

นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดตัว Gear 2 สมาร์ทวอชรุ่นที่ 2 ของซัมซุง และ Gear Fit ฟิตเนสแบนด์ สำหรับคนรักสุขภาพ ออกมาด้วย ซึ่งตัว Gear Fit ตัวนี้ จะมีลักษณะเล็กกะทัดรัด สวมใส่สบาย แต่จะใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของซัมซุงเท่านั้น โดยรองรับการแสดงผล การแจ้งเตือนต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถใช้งาน Gear Fit ร่วมกับ กาแลคซี S5 (Galaxy S5) ได้ด้วย เป็นอย่างไรกันบ้าง นี่ก็เป็นเพียงลูกเล่นใหม่ส่วนหนึ่งของกาแลคซี S5 (Galaxy S5) น่าสนใจกันบ้างหรือยัง หากท่านใดสนใจแล้ว ก็เตรียมตัวจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย...รับรองไม่ผิดหวัง

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แท็บเล็ต (Tablet) ปัจจัยที่ 6 ของชีวิตคุณ จริงหรือไม่??



แท็บเล็ต (Tablet) หรือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ (Tablet Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่รวมการทำงานทุกอย่างไว้ในจอสัมผัสโดยใช้ ปากกาดิจิตอล หรือ ปลายนิ้ว มีอุปกรณ์ไร้สายสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายใน โดยแท็บเล็ต (Tablet) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย รวดเร็ว และมีคุณลักษณะที่เหมาะสมที่ช่วยในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นได้ทั้งสื่อและเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ ซึ่งมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ในส่วนประเทศไทย มักจะเป็นในรูปแบบ Mobile application ซึ่งจะสะดวกต่อการใช้งานทั้งผู้ใช้งานทั้งในสังคมเมืองและสังคมชนบทที่ห่างไกล อันเป็นการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาได้อย่างดี ยิ่งปรับลักษณะของอุปกรณ์แท็บเล็ต (Tablet)ให้เหมาะสมกับการสืบค้นข้อมูลดีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยทำให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในยุคดิจิตอลได้มากขึ้นด้วย

ในส่วนของการเลือกแท็บเล็ต (Tablet)ที่ดีต่อตัวคุณ ซึ่งจะต้องทราบจุดประสงค์ในการใช้งานของคุณเสียก่อนว่าจะเอาใช้งานในด้านไหนบ้าง และเลือกแท็บเล็ตที่ดีที่สุดเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าให้มากที่สุด โดยส่วนมากคนเราก็คงจะเลือกที่ราคามองหาแท็บเล็ตราคาถูก ราคาไม่แพงมากนัก และจะต้องมีน้ำหนักที่เบา ต้องมีการรับประกันจากตัวผู้ผลิตอีกด้วย อีกทั้งที่มีความสำคัญมากๆ ก็คือ ระบบปฏิบัติการ ที่เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ตัวกลางสำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานและตัวเครื่อง ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็จะมีระบบปฏิบัติการหลักๆอยู่ 4 ตัวในตลาด ได้แก่

**  iOS ระบบปฏิบัติการจากค่าย Apple ซึ่งแท็บเล็ต (Tablet)ที่ใช้อยู่ก็ คือ iPad นั่นเอง และถ้าให้พูดถึงจุดเด่นของ iOS แล้วละก็คงจะเป็นที่ความลื่นไหล ระบบการทำงานและจัดการหน่วยความจำที่ดี เพราะถึงแม้ iPad 2 จะมีหน่วยความจำแรมเพียงแค่ 512MB แต่การทำงานกลับลื่นไหลไม่ต่างจากแท็บเล็ต (Tablet)ตัวอื่นๆ ที่มีหน่วยความจำมากกว่า ส่วนข้อด้อยเป็นระบบปฏิบัติการตัวเดียวที่ไม่รองรับ Flash (ไม่สามารถแสดงผลได้) และการเชื่อมต่อที่ต้องทำผ่านซอฟท์แวร์ iTune เท่านั้น

**  Android ระบบปฏิบัติการจากค่าย Google เดิมทีทาง Google ได้พัฒนาขึ้นมาใช้สำหรับมือถือสมาร์ทโฟนเท่านั้น 

**  Windows ระบบปฏิบัติการจากค่าย Microsoft

**  BlackBerry Tablet OS ระบบปฏิบัติการจากค่าย RIM เจ้าของสมาร์ทโฟน BB โดยระบบปฏิบัติการตัวนี้จะพัฒนามาสำหรับ PlayBook โดยเฉพาะ การทำงานโดยรวมก็ถือได้ว่าลื่นไหลไม่แพ้ iOS นอกจากนี้ยังออกแบบการใช้งานโดยวิธีการสัมผัสต่างๆ ช่วยให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น

โดยสรุปแล้วแท็บเล็ต (Tablet)ไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา การจะซื้อแท็บเล็ตที่ดีที่สุดสักตัว อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ที่เราจะได้จากมันหรือง่ายๆ  คือ ซื้อมาแล้วได้ใช้งานไม่ต้องแปรสภาพไปเป็นที่ทับกระดาษ แต่ถ้าคิดแล้วไม่มีหรือซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้อะไร แนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อจะดีกว่า เพราะถ้าจะมองหาแท็บเล็ตราคาถูกก็คงจะยาก เพราะราคาของแท็บเล็ต (Tablet)ที่ซื้อไปค่อนข้างสูง ควรจะซื้อเมื่อเราต้องใช้งานในยามที่มีความจำเป็นจริงๆ คงจะดีกว่า......

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ดูแลโทรศัพท์มือถืออย่างไรให้ใช้นาน เคล็ด(ไม่)ลับ กับการดูแลมือถือ

หน้าจอ (Display) เริ่มต้นที่หน้าจอก่อน เพราะหยิบมาเมาท์ทีไรก็ต้องแนบกับหน้าทุกครั้งพอคุยเสร็จปุ๊บก็เป็นคราบเลย ทั้งแป้งทั้งเหงื่อทั้งความมัน ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจได้สิวเป็นของแถม การดูและหน้าจอโทรศัพท์มือถือดีทั่วๆ ไปนั้น ทำได้ไม่อยากแค่ใช้ผ้าสะอาดๆ หรือทิชชู่สำหรับเด็ก (ทิชชู่ทั่วไปจะทำให้หน้าจอเป็นรอยได้) หรือใช้ผ้าเช็ดแว่นเป็นอุปกรณ์ในการทำความสะอาดหน้าจอมือถือ ส่วนเช็ดบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีจอแบบ Touch Screen ซึ่งจะไวต่อความร้อน ความชื้น และการกระทบกระแทกเป็นพิเศษ ดังนั้น การดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือจึงต้องทะนุถนอมกว่าจอมือถือแบบอื่นซักหน่อย 

วิธีการดูแลรักษาหน้าจอแบบ Touch Screen
-  อย่าทำตกหรือให้อะไรมากระแทกจอเพราะจะแตกได้

-  ควรจะติดแผ่นกันรอยเพราะจะช่วยกันจอจากความชื่น รอยขีดข่วน และการกระแทกได้ส่วนหนึ่ง

-  อย่าใช้น้ำอย่าที่ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้ทำความสะจอ Touch Screen ถ้าเป็นน้ำยาเช็ดคอม หรือแอลกอฮอล์จะซึมเข้าไปข้างในจอทำให้จอเสียได้

-  ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แบบที่เช้ดแว่นแห้งๆถูเบาๆหากยังไม่ออกให้ใช้น้ำยาเช็ดหน้าจอ Touch Screen เพิ่มได้

-  อย่าวางเครื่องทิ้งไว้ในที่ความร้อนสูงเช่นหน้าคอนโซลรถเพราะจะทำให้จอเสื่อม

-  หากโดนน้ำให้รีบเช็ดออกให้เร็วที่สุดห้ามเอาไดร์เป่าผมมาเป่าเพราะจอจะโดนความร้อนจะบวมได้

-  หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเช่นตากแดดร้อนๆมาเข้าห้องแอร์เย็นๆ เพราะถ้าจอปรับตัวไม่ทันจะทำให้แตกได้ และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นจอแบบไหก็ตามพยายามอย่าทำหล่นบ่อย เพราะจะทำให้หน้าจอแตกหรือร้าวได้ ป้องกันง่ายๆโดนเก็บใส่กระเป๋าถือหรือกระเป๋ากางเกง จะหาซองมาใส่กันกระแทก เอาสายมาคล้องคอหรือข้อมือเวลาถือก็ช่วยเซฟได้ดีเหมือนกันบางคนอาจจะไม่ชอบรู้สึกว่าสิ้นเปลืองหรือไม่สะดวก แต่ว่าคุ้มกว่าค่าซ่อมเป็น ไหนๆ

กล้อง (Camera) สำหรับการดูแลรักษากล้องบนมือถือก็ทำได้ไม่ยาก คือใช้คอตต้อนบัดหรือผ้าเช็ดแวนชุบน้ำยาทำความสะอาดเลนส์ (แบบเดียวกับที่ใช้กับกล้องทั่วไป) เช็ด หรือหาแผ่นฟิล์มสำหรับป้องกันรอยบนหน้าจอมาปิดเพื่องป้องกันฝุ่นและรอยนิ้วมือก็ได้

แบตเตอร์รี (Battery) การที่จะใช้โทรศัพท์มือถือได้นานๆ ก็ต้องขึ้นอนู่กับการชาร์ตแบตด้วย ซึ่งการใช้งานที่ถูกต้องก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้ เช่น เมื่อซื้อมือถือใหม่ก็ควรชาร์ตแบตใน 2-3 ครั้งแรกให้เต็มที่ เพื่อให้กระบวนการทางสารเคมีของสารประกอบภายในเกิดปฎิกิริยาให้สมบูรณ์ไม่ควรชาร์ตแบตเกิน 24 ชม. โดนไม่ถอดสายชาร์ตออก เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว ถ้ายังมีพลังงานเหลืออยู่มากอย่าพึ่งรีบชาร์ตใหม่ ควรจะใช้ให้หมดก่อนจึงเริ่มชาร์ต เนื่องจกการชาร์ตหนึ่งครั้ง จะคิดเป็นหนึ่งรอบซึ่งจะมีอายุกำหนดว่าสามารถชาร์ตได้กี่ครั้ง ขณะชาร์ตควรปิดเครื่องด้วยเพราะหากมีสายเข้ามาจะทำให้การชาร์ตหยุดลงชั่วขณะและเริ่มชาร์ตใหม่เมื่อวางสาย

ตัวเครื่อง (Body) ไม่ว่าจะเป็นแบบ Bar Phone, Clam Shell หรือ Slide จะมีเสาหรือมีไม่มีเสา วิธีดูแลแบบเบสิกเลยคือทำหล่นให้น้อยที่สุด ซึ่ง
โทรศัพท์มือถือแบบ Clam Shell หรือ Slide จะมีโอกาสเสียง่ายมาก เพราะทำให้สายพานที่เชื่อมต่อบานพับหรือข้อต่อเสื่อมหรือหลุดได้ บางทีตัวเครื่องไม่เป็นไรแต่วงจรภายในเจ้ง ซึ่งค่าซ่อมไม่น้อยแน่ๆ การป้องกันก็เหมือนกับที่ได้กล่าวไปในเรื่องขอหน้าจอนั่นแหละ แล้วเวลาว่างๆ ก็หาผ้าสะอาดๆ มาเช็ดบ้าง หรือ จะใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดมือถือมาเช็ดด้วยอีกแรงก็ดีเหมือนกัน นอกจากจะช่วยให้น่าใช้แล้วยังช่วยลบรอยกำ, คราบและฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่ได้ด้ว


ข้อมูลโดย... http://www.weloveshopping.com